โดย: คุณซันเจ สัญชัย ปอปลี
ผู้ร่วมก่อตั้ง & Chief Strategy Offiicer – Cryptomind Group Holding และที่ปรึกษาสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
Facebook: สัญชัย ปอปลี – Sanjay Popli

 

เมื่อพูดถึง การเงิน ในปัจจุบัน ก็คงหนีไม่พ้นเทคโนโลยีบนบล็อกเชนอย่าง DeFi, GameFi และ NFT เพราะอย่างที่เราทราบกันดีกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนการทำกิจกรรมในด้านต่าง ๆ ของเราให้ไปในด้านที่ดีขึ้นมากขึ้น แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ และด้วยเหตุผลนั้นก็อาจทำให้มันมีความเข้าใจยากอยู่บ้าง แต่เมื่อเราสามารถเข้าใจได้แล้ว ประโยชน์ที่เกิดขึ้นก็มีกับเราไม่น้อยเลย

อย่าง DeFi หรือ Decentralized Finance คือการทำธุรกรรมทางการเงินรูปใหม่ โดยปกติตัวกลางที่เรามักจะคุ้นเคยกันคือธนาคาร แต่ด้วย DeFi ซึ่งใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีความกระจายศูนย์ ก็จะทำให้ตัวกลางในที่นี้ไม่มีอีกต่อไป และด้วยความที่มันไม่มีตัวกลาง เทคโนโลยีนี้เลยเปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่มีข้อแม้ว่าเราจะเป็นใคร รายได้เท่าไหร่ เราก็สามารถใช้ได้ ด้วยสิ่งนี้จึงทำให้ในปัจจุบันมีการรับรู้ต่อมุมมอง DeFi ในทางที่ดีขึ้นและต่างออกไปจากเมื่อก่อนที่ผู้คนมักมองว่า DeFi เป็นแค่ Money Game เพราะในปัจจุบัน DeFi มี Use Case มากมายที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้คน อย่างเช่น แพลตฟอร์ม Uniswap ที่ทำให้เราสามารถแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซี่ได้ หรือ แพลตฟอร์ม Compound ที่ทำให้เราสามารถกู้เงินได้ หรือ แพลตฟอร์ม dYdX ที่ทำให้เราสามารถเทรดคริปโตเคอร์เรนซี่แบบ Derivative ได้ ซึ่งแพลตฟอร์มต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นและเป็นไปได้เพราะบล็อกเชนมี Smart Contract ที่กำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างเปิดเผยและตรวจสอบได้

สิ่งที่ควรจับตามองสำหรับ DeFi คือเรื่อง Mass Adoption เนื่องจากยังมีผู้คนอีกมากที่อาจจะยังไม่ได้ตระหนักถึงข้อดีในส่วนนี้

นอกจากนั้นนอกจากเรื่องการเงินแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่บล็อกเชนมีส่วนเข้ามาเปลี่ยนแปลงอย่างมากคืออุตสาหกรรมเกม โดยการเปลี่ยนในที่นี้คือการสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับคนมากขึ้น อย่างเกม Axie Infinity ซึ่งเป็นเกมให้ผู้เล่นนำเหล่ามอนสเตอร์ Axie มาต่อสู้กัน และผู้ชนะก็จะได้ตอบแทนเป็นเงินจริง ๆ อย่างเกม Axie Infinity จะมีผลตอบแทนให้กับผู้ที่ชนะการต่อสู้เป็นเหรียญ SLP ถ้ายิ่งเล่นเก่ง ก็ยิ่งจะมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนมากขึ้น และเกมนี้มี Use Case จริง ๆ อย่างประเทศฟิลิปปินส์ที่มีคนหลายอายุหลายวัยเข้ามาเล่นเกมนี้ และช่วยสร้างรายได้ในยุคโควิด-19 บางคนทำเป็นงานเสริม บางคนทำเป็นงานหลัก ซึ่งนี่คือสิ่งที่ GameFi มีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามการเล่นเกมบางเกมอย่าง Axie Infinity นั้นก็มีต้นทุนในการไปซื้อมอนสเตอร์ Axie ก่อนจึงจะสามารถเล่นได้ ในปัจจุบันเลยเกิดรูปแบบธุรกิจใหม่คือ Scholarship ซึ่งผู้ให้ทุนจะออกทุนให้กับผู้ที่ต้องการเงินทุน และเมื่อผู้ที่ได้ทุนสามารถสร้างรายได้ได้ รายได้ส่วนนี้ก็จะแบ่งกันตามอัตราส่วนที่ตกลงไว้ ปัจจุบันมีผู้ให้ Scholarship มากมาย อย่าง Guild Scholarship ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยคือ GuildFi

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับการมาของคริปโตเคอร์เรนซี่คือ NFT ที่ย่อมาจาก non-fungible token หรือที่คนไทยมักจะรู้จักในการซื้อขายงานศิลปะ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว NFT สามารถเป็นได้มากกว่านั้นอย่างเช่น เพลง หรือ ที่ดินบนโลกเสมือน

NFT เป็นเหมือนคลื่นลูกใหม่ที่รอการพิสูจน์โดยเฉพาะการนำมาใช้บนโลกเสมือน(Metaverse) เพราะในปัจจุบันมีการซื้อขายที่ดิน, สินทรัพย์ต่าง ๆ ที่อยู่บนโลกเสมือน(อย่างเกม Sandbox) แต่ก็ยังไม่มีคำตอบว่าจะเป็นอย่างไรหากโลกเหมือนได้เกิดขึ้นจริง ๆ แล้วเพราะปัจจุบันยังไม่มีแพลตฟอร์มโลกเสมือนที่พร้อมเปิดและพิสูจน์สมมุติฐานนี้ได้ ซึ่งต้องรอติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่ถ้าเป็นเรื่องงานศิลปะ คาดว่าสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า NFT สามารถมาช่วยแก้ปัญหาได้ เพราะด้วยความที่ NFT อยู่บนบล็อกเชน จึงสามารถพิสูจน์งานศิลปะได้ง่ายมากว่าอันไหนเป็นของแท้ นอกจากนั้นงานศิลปะที่เป็นรูปแบบ NFT ก็ได้รับความสนใจทั่วโลกอีกด้วย โดยเฉพาะคอลเลกชัน CryptoPunks ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 2017 แต่ 14 วันย้อนหลังมี Volume ซื้อขายมากถึง 140,000 ETH หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2 หมื่น 1 พันล้านบาท

สิ่งที่สำคัญเพิ่มเติมจาก 3 สิ่งเหล่านี้และเป็นข่าวอย่างกว้างขวางคือเรื่องของโลกเสมือน หรือ Metaverse จากที่ Facebook ประกาศรีแบรนด์เป็น Meta ความสนใจในด้าน Metaverse ของผู้คนก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจาก ราคาที่ดินบนเกม Sandbox ที่มีมูลค่าสูงขึ้นถูกซื้อขายอยู่บนตลาดรองอย่าง Opensea ซึ่งสิ่งนี้ได้กระตุ้นความอยากรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของผู้คนและสำคัญมาก เพราะปัจจุบันยังไม่มีแพลตฟอร์ม Metaverse ที่เปิดพร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์ อย่างเกม Sandbox ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Metaverse ที่ผู้คนจับตามองมากที่สุดก็มีกำหนดการเริ่มเปิดที่ปีหน้า แต่จากที่เห็นจากความสนใจของผู้คน ณ วันนี้ก็มีข้อสังเกตดี ๆ ว่า Metaverse อาจจะเป็นอนาคตอันต่อไปของพวกเรา

ด้วยความที่คริปโตเคอร์เรนซี่ได้การยอมรับที่มากขึ้น ปัจจุบันจึงมีกองทุน สถาบัน และนักลงทุนใหญ่ ๆ มากมายเข้ามา อย่างไรก็ตามพื้นที่ตรงนี้ก็ยังคงใหม่และมีศักยภาพที่จะสามารถเติบโตไปสู่ Mass Adoption ในอนาคตได้อีก เพราะฉะนั้นคงจะเป็นเรื่องที่ดีถ้าเราสามารถทำความรู้จักและเรียนรู้ไปกับมัน