นาทีนี้เราอาจแทบไม่ต้องเสียเวลาในการอธิบายระบบการฟังเพลงแบบสตรีมมิงอีกต่อไปแล้ว เมื่อหันไปทางไหนทุกคนล้วนแล้วแต่ฟังเพลงผ่านระบบนี้กันทั้งนั้น โดยระบบสตรีมมิ่งคือแอปพลิเคชันที่ให้เราฟังเพลงออนไลน์โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเก็บมาไว้ในเครื่อง ทั้งยังสามารถเลือกฟังเพลงได้อย่างหลากหลายในราคาถูก ซึ่งค่าบริการนั้นมากน้อยตามแต่แอปพลิเคชันจะเป็นผู้กำหนด พูดให้เห็นภาพชัดที่สุดมันเปรียบเสมือนการเช่าเพลงฟังและเหมาจ่ายไปนั่นเอง

เครดิตภาพ: rawpixel.com

1. ทำไมคนถึงรักสตรีมมิง

จุดเด่นของระบบสตรีมมิงคือราคาถูกเมื่อเทียบกับการที่ผู้ฟังซื้อเพลงมาฟังในอดีต ไม่ว่าจะยุคเทปคลาสเซ็ตมาจนถึงไฟล์ MP3 ที่หากเราซื้ออย่างถูกลิขสิทธิ์นั้นอาจต้องซื้อทั้งอัลบั้ม หรือหากชอบเฉพาะเพลงอาจต้องรอจนมีการรวบรวมเพลงฮิตของแต่ละศิลปินรวมไว้ในอัลบั้มเดียว ซึ่งระบบสตรีมมิงแก้ไขปัญหาส่วนนี้ได้อย่างเฉียบขาดและยังเป็นการสนับสนุนให้ผู้ฟังได้ฟังเพลงอย่างถูกลิขสิทธิ์อีกด้วย เพราะระบบสตรีมมิงนั้นจะติดต่อกับเหล่าค่ายเพลงเพื่อซื้อเพลงของพวกเขาอย่างถูกต้องมาลงในระบบ ให้เราสามารถจ่ายเงินก้อนเดียวแล้วเลือกฟังเพลงจากศิลปินคนไหน อัลบั้มใดก็ได้ ทั้งหากเวลาไม่สะดวกใช้อินเตอร์เน็ตยังสามารถฟังแบบออฟไลน์ได้ไม่จำกัดเวลา และมีการอัปเดตเพลงใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอส่งตรงจากค่ายเพลง และระบบนี้ยังส่งเสริมศิลปินทางตรงอีกด้วย เพราะแม้คนอาจไม่ซื้ออัลบั้มของพวกเขามาเก็บ แต่สามารถเลือกฟังเพลงของพวกเขาอย่างถูกต้องผ่านการสตรีมมิง ซึ่งจ่ายเงินค่าผลงานเพลงให้ศิลปินโดยตรงนั่นเอง รวมถึงผู้ฟังไม่ต้องกังวลเรื่องของคุณภาพเสียงของเพลงอีกต่อไปเมื่อระบบสตรีมมิงการันตีความคมชัดของเสียง ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีตัวเชื่อมที่สำคัญที่สุดอย่างอินเตอร์เน็ต

เครดิตภาพ: https://www.chelseaaudiovideo.com/everything-you-need-to-know-about-streaming-music-services/)

2. แล้วสตรีมมิงทำงานอย่างไร

การทำงานของระบบสตรีมมิงนั้นอธิบายให้เห็นภาพโดยง่ายที่สุด คือการแยกชิ้นส่วนของเพลงหรือเนื้อหาออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วส่งผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อนำไปรวมตัวกันใหม่อีกครั้งโดยไม่สูญเสียคุณภาพหรือความคมชัด และสามารถรับฟังเพลงได้ทันทีที่กดเข้าไปฟังโดยไม่ต้องรออย่างการดาวน์โหลดเพลงจากอินเตอร์เน็ตในยุคก่อน
เรื่องของความสะดวก รวดเร็วและคุณภาพเช่นนี้นับเป็นหนึ่งในจุดแข็งของระบบสตรีมมิง ที่สำคัญไปกว่านั้นคือระบบสตรีมมิงจะไม่กินพื้นที่โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของผู้ฟัง เราจึงสามารถฟังเพลงได้นับสิบนับร้อยเพลงไม่ซ้ำโดยไม่ต้องกังวลว่าจะกินพื้นที่ของอุปกรณ์ที่เราใช้หรือไม่ แน่นอนว่าแตกต่างไปจากการดาวน์โหลดมาฟังหรือดู ซึ่งเมื่อดาวน์โหลดเสร็จ ขนาดของไฟล์จะกินพื้นที่ส่วนหนึ่งในโทรศัพท์ของเรา ทำให้หลายคนสะดวกใจกับการสตรีมมิงที่ไม่กินพื้นที่มากกว่า

3. สตรีมมิงในไทยเป็นอย่างไรแล้วนะ

ด้วยเหตุผลทั้งหมดเหล่านั้น ระบบสตรีมมิงจึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ในรอบปีที่ผ่านมามีบริการสตรีมมิงมากมายผุดขึ้นในประเทศไทย เริ่มจาก Apple Music ที่เป็นที่นิยมอย่างสุดๆ ด้วยจำนวนผู้ใช้หลายสิบล้านคนทั่วโลกและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเพลงไทยอาจจะยังไม่มากนัก แต่หากชอบฟังเพลงสากล Apple Music นับเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะเต็มไปด้วยความหลากหลายของเพลงจากตะวันตก JOOX ที่มีเพลงทั้งจากไทยและต่างประเทศให้ฟังแบบจุใจแม้ยังไม่เสียเงินเป็นสมาชิก แต่จำกัดจำนวนการเข้าถึง เพราะบางเพลงจะฟังได้ต่อเมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้ว ที่พิเศษคือการที่ตัวระบบเจาะกลุ่มผู้บริโภคชาวเอเชีย ทำให้เต็มไปด้วยเพลงจากไทย จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีให้เลือกฟังจำนวนมหาศาล และล่าสุดกับ Spotify สตรีมมิงส่งตรงจากสวีเดนที่มีผู้ใช้หลักร้อยล้าน และเพลงจากทั่วทุกมุมโลกเท่าที่จะหาได้

เครดิตภาพ: https://medium.com/cuepoint/the-quiet-giant-of-streaming-music-you-re-already-paying-for-7b9e9f999e20)

ตรงกันกับที่ พลพงษ์ อมอนรัตน์ หนึ่งในผู้ใช้บริการสตรีมมิงกล่าวว่า ข้อดีของสตรีมมิ่งคือมันสะดวกมากๆ “อย่างแรกคือเวลามีเพลงใหม่ๆ เราก็ไม่ต้องมานั่งโหลดลงเครื่อง คือถ้าเทียบกับการฟังเพลงแบบออฟไลน์ คุณโหลดเพลงลงเครื่องทีหนึ่ง ถ้าฟังในคอมพิวเตอร์ก็ต้องเอาไปใส่คอมพ์ จะฟังผ่านโทรศัพท์ก็ต้องโหลดใส่โทรศัพท์ หรือถ้าฟังผ่านไอแพดก็ต้องโหลดใส่ไอแพดอีก คือคุณนึกถึงความสะดวกสิ (หัวเราะ)

“อีกอย่าง ระบบของแพลตฟอร์มที่ให้บริการ มันมีอัลกอริทึมแนะนำเพลงใหม่ๆ ซึ่งมันตัดความสำคัญของดีเจออกไป มีระบบที่แนะนำเพลงให้คุณ ว่าถ้าคุณฟังเพลงแนวนี้ของวงนี้คุณน่าจะชอบของวงนี้เหมือนกันนะ ถ้าคนเขียนตัวโปรแกรมเก่งพอจะแนะนำเพลงได้เป๊ะมากๆ แล้วมันทำให้เราได้ฟังอะไรใหม่ๆ ด้วย” พลพงษ์กล่าว “และที่สำคัญ ถ้ามองแบบคนที่ใช้บริการการฟังเพลงแบบถูกลิขสิทธิ์ การที่คุณซื้อเพลงอัลบั้มหนึ่งมันก็เป็นร้อยบาท ขณะที่โลกการสตรีมมิงพวกนี้อยู่ได้เพราะถูกลิขสิทธิ์ ศิลปินได้เงินและที่สำคัญคือสะดวกกว่าการโหลดเพลงแบบผิดลิขสิทธิ์ ลองนึกดูนะ เวลาจะโหลดเพลงแบบผิดๆ คุณต้องมาเสิร์ชหาเพลง กดโหลด แล้วยังมีโอกาสเสี่ยงจะไปเจอไวรัสอีก ซึ่งถ้าคุณฟังสตรีมมิงนี่ตัดเรื่องพวกนี้ไปได้เลย และอีกอย่างที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวคือ บริษัทสตรีมมิงพวกนี้มีความพยายามจะเป็นพื้นที่ศูนย์กลางและหลากหลาย จึงมีความพยายามที่จะเป็นคลังเพลง เขาจะเปิดพื้นที่ให้ศิลปินหน้าใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น”

เครดิตภาพ: https://www.howtogeek.com/304861/the-best-streaming-music-services-for-any-type-of-listener/)

4. อนาคตของการสตรีมมิง

เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ตอบสนองพฤติกรรมการฟังเพลงของชาวไทยเป็นอย่างดี เพราะมีตัวเลขระบุว่า คนไทยกว่าครึ่งฟังเพลงผ่านอินเตอร์เน็ตและสมาร์ตโฟน รวมทั้งใช้บริการผ่านระบบสตรีมมิงเพื่อฟังเพลงอย่างถูกลิขสิทธิ์ ระบบสตรีมมิงเหล่านี้จึงพร้อมใจกันพัฒนาระบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคโดยเน้นไปที่ความสะดวกใจการฟังเพลง ความรวดเร็ว หน้าตาสวยงาม และสำคัญที่สุด ความหลากหลายของเพลงในระบบ ซึ่งที่ผ่านมา ค่ายเพลงในไทยหลายค่ายต่างดีลกับสตรีมมิงแต่ละเจ้าในการให้สิทธิ์เพลงนำไปบริการ

แอนน์ เจนนิสเค็นส์ เจ้าหน้าที่จาก FUGA บริษัทที่ช่วยดูแลและวิเคราะห์การตลาดของอุตสาหกรรมดนตรีให้ความเห็นว่า ในอนาคต ดนตรีจะอยู่ในทุกที่ยิ่งกว่าทุกวันนี้แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระบบของสตรีมมิงเข้าถึงทุกพื้นที่ “คุณจะบริโภคบทเพลงจากที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ไปจนถึงตอบโต้และแสดงความเห็นกับศิลปินที่คุณชื่นชอบและฟังเพลงของพวกเขา การฟังเพลงมันไม่ใช่กิจกรรมที่เราเลือกเพื่อจะทำแล้ว แต่เราอบพิซซ่าไปพลางเปิดเพลงฟังไปพลาง ออกกำลังกายในยิมก็ฟังเพลงได้” ขณะที่บริษัท Midia Research ซึ่งทำงานด้านสถิติของสื่อและการสตรีมมิงโดยตรง กล่าวว่า อนาคต สตรีมมิงจะกลายเป็นสถานีวิทยุที่ใหญ่ที่สุดอย่างแน่นอน และจะเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นสองเท่าจากสถานีวิทยุทุกวันนี้ “เพราะมันเต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมากับการฟังเพลงจากการสตรีมมิง และไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกจำกัดว่าจะต้องฟังบทเพลงที่สถานีเป็นคนคัดเลือกมาให้อีกต่อไปแล้วนั่นเอง”

5. ค่ายเพลงไทยในโลกสตรีมมิง

โดยเฉพาะค่ายเพลง GMM Grammy ที่ดีลกับสตรีมมิง JOOX ให้บริการฟังเพลงอย่างถูกลิขสิทธิ์และหลากหลาย ซึ่งเราจะพบเพลงฮิตทั้งในอดีตและปัจจุบันนับร้อยรายการ และที่น่าจับตายิ่งกว่าคือก้าวใหญ่ยักษ์อย่างโปรเจ็กต์พิเศษที่ GMM จับมือกับ JOOX ใน “NEXTPLORER” ที่รวมสิบศิลปินรุ่นใหม่น่าจับตาซึ่งโดดเด่นด้วยแนวเพลงของตัวเอง แน่นอนว่านี่นับเป็นการเดินแต้มที่เก่งกาจและชาญฉลาดของ GMM เนื่องจากมีการประเมินตัวเลขของคนไทยที่ใช้บริการสตรีมมิง พบว่า 70 เปอร์เซ็นนั้นใช้บริการจากสตรีมมิงหลากหลายช่องทาง นอกจากนั้นยังมีตัวเลขจากทางแกรมมี่ด้วยว่า คนไทยยังฟังเพลงไทยถึง 80-90% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก และถือเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่า เพลงไทยยังมีลมหายใจ และมันอยู่ในระบบบริการฟังเพลงใหม่ๆ อย่างการสตรีมมิงนั่นเอง.

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : www.howtogeek.com https://medium.com