ไม่น่าเชื่อว่าจากนโยบายยกเลิกการใช้ธนบัตรประเภท 500 และ 1,000 รูปี เมื่อ 2 ปีก่อน วันนี้อินเดียกำลังส่งสัญญาณให้โลกรู้ว่าประเทศตนกำลังเร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ตามเป้าหมายของรัฐบาลภายใต้การดูแลของนายโมดี

เครดิตภาพ: https://www.bbc.com

เมื่อพูดถึงอินเดีย คนส่วนใหญ่ยังมีอคติว่าเป็นประเทศที่ไม่ค่อยศิวิไลซ์ สกปรกไร้ระเบียบ ผู้คนยากจน แต่วันนี้อาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะคนอินเดียในหลายเมืองเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน จากเงินสดกลายมาเป็นทำธุรกรรมทางการเงินผ่านออนไลน์ ประชาชนนิยมจับจ่ายซื้อของผ่านโทรศัพท์มือถือ ทุกร้านค้า ร้านอาหาร ยันหาบเร่แผงลอยมีป้าย QR Code ให้สแกนจ่ายเงิน ช่างเป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อมากๆ

เครดิตภาพ: https://www.theindiantalks.com

จุดเริ่มต้นมาจากเมื่อปี 2559 เมื่อนายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีอินเดีย ประกาศยกเลิกการใช้ธนบัตรประเภท 500 และ 1,000 รูปีอย่างสายฟ้าแลบ เพื่อแก้ปัญหาเงินนอกระบบ (Black Money) อันมาจากคอร์รัปชั่นและธุรกิจนอกกฎหมาย ซึ่งนโยบายนี้ส่งผลสะเทือนปั่นป่วนไปทั่วประเทศ ทั้งเศรษฐกิจและสังคม เราจะเห็นข่าวธนาคารพาณิชย์หลายแห่งประสบปัญหาธนบัตรไม่เพียงพอ ชาวบ้านยืนรอต่อคิวกลางแดดร้อนๆนาน 5-6 ชั่วโมงเพื่อรอแลกเงินจากธนบัตร 500 และ 1,000 รูปี เป็นธนบัตรประเภทอื่นที่อนุญาตให้ใช้ได้ตามปกติ บางคนต้องฆ่าตัวตายเพราะเงินสดที่เก็บไว้ที่บ้านกลายเป็นเศษกระดาษไร้ค่า บางคนเบิกเงินไม่ทัน ไม่มีเงินจับจ่ายหรือใช้หนี้ เมื่อคนไม่มีเงิน ธุรกิจร้านค้าต่างซบเซาไปพักหนึ่ง แต่ทั้งที่ได้รับความเดือดร้อน ทว่าชาวอินเดียส่วนใหญ่ยังให้การสนับสนุนนโยบายนี้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ผลที่ตามมานั้นเรียกได้ว่าพลิกโฉมประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและเทคโนโลยีของอินเดีย เพียงชั่วข้ามคืนประเทศอินเดียที่นิยมใช้เงินสดเป็นหลักและประชาชนเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่มีบัญชีธนาคารต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด นั่นคือ ประชาชนหันมาใช้ระบบซื้อขายจ่ายเงินทางดิจิทัลกันเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เครดิตภาพ: https://www.tvisha.com

ด้านนายวิเจย์ เชคาร์ ชาร์มา (Vijay Shekhar Sharma) ผู้ก่อตั้ง Paytm แอพพลิเคชันธุรกรรมผ่านมือถือชื่อดังสัญชาติอินเดีย เผยว่า เพียงวันเดียวหลังจากการยกเลิกธนบัตร มียอดการเข้าชมแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นถึง 700% มีจำนวนการดาวน์โหลดแอพฯ เพิ่มขึ้น 300% ทำธุรกรรมผ่าน Paytm ซึ่งเป็นบริการชำระเงินออนไลน์รายใหญ่ในประเทศอินเดีย ที่สนับสนุนโดย Alibaba เพิ่มขึ้นกว่า 400 % จากเมื่อก่อนมีผู้ใช้งานเพียง 700,000 ราย แต่หลังจากการยกเลิกธนบัตร มีผู้สมัครใช้งานใหม่ถึงวันละ 40,000-50,000 ราย และปัจจุบันมียอดบัญชีผู้ใช้ทะลุถึง 250 ล้านรายแล้ว เหตุผลมาจากหลังจากรัฐบาลยกเลิกใช้ธนบัตรอย่างกะทันหัน ประชาชนจำนวนมากเริ่มกังวลต่อเงินที่อยู่ในรูปแบบกระดาษว่าสักวันหนึ่งอาจจะมีค่าเพียงเศษกระดาษ จึงหันมาเปิดบัญชี เปลี่ยนวิถีการจับจ่ายใช้สอยผ่านออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อตัวรัฐบาลเองด้วย เพราะที่ผ่านมาการดำเนินงานเกี่ยวกับเงินสดเป็นภาระที่ทำให้ธนาคารกลางและบรรดาธนาคารพาณิชย์ของอินเดียต้องเสียค่าใช้จ่ายถึงราวปีละ 210,000 ล้านรูปี (หรือประมาณ 105,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว ซึ่งเร็วๆ นี้ Paytm กำลังจะลงทุนเพิ่มอีก 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขยายฐานบริการและทำให้คนอินเดียอีกกว่า 500 ล้านคนสามารถใช้งานได้

ขณะเดียวกันด้านภาคธุรกิจ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ภัตตาคาร รวมถึงร้านอาหารริมทาง ร้านชำ ร้านขายถั่ว ร้านขายดอกไม้ หรือแม้แต่หาบเร่แผงลอยผักผลไม้สดยังต้องปรับตัวขนานใหญ่ด้วยการหันมารองรับระบบจ่ายเงินผ่านมือถือ เช่น ลงทุนซื้อเครื่องรูดบัตร หรือติดป้ายให้สแกน QR Code แทนจ่ายด้วยเงินสด ว่ากันว่าแค่กล้วยหอมราคา 20 รูปี สามารถจ่ายผ่านมือถือได้

แต่กระนั้นยังถือว่าเป็นสัดส่วนที่เล็กเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 1,250 ล้านคน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงประสบปัญหาไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ และยังคุ้นชินกับการซื้อขายจับจ่ายเป็นเงินสดมากกว่า จากข้อจำกัดดังกล่าวถือเป็นโจทย์สำคัญที่ต้องใช้เวลาแก้ไขเปลี่ยนแปลง ซึ่งเห็นได้จากการเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในหลายเมืองของรัฐบาล บวกกับการแข่งขันกันลงทุนในธุรกิจ E-commerce และ Mobile Wallet Application ทั้งบริษัทจากในประเทศและนอกประเทศ ทำให้ปัจจุบันอินเดียจัดว่าเป็นตลาดสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก เฉพาะปี 2560 เพียงปีเดียว มีการทำธุรกรรมดิจิทัลมากกว่า 25,000 ล้านครั้งในอินเดีย ถือว่าเป็นตัวเลขที่ไปไกลจริงๆ

ใครจะไปเชื่อว่า จากนโยบายยกเลิกการใช้ธนบัตรเพื่อปราบปราบธุรกิจใต้ดิน จะเปลี่ยนแปลงสังคมอินเดียที่เคยนิยมใช้เงินสดให้กลายเป็นสังคมที่ประชาชนนิยมจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ด้วยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล ภาคธุรกิจแข่งขันกันพัฒนาไม่หยุดนิ่ง รวมถึงการตื่นตัว ปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงของประชาชน ซึ่งผู้เขียนเชื่อมั่นว่าความหวังของรัฐบาลอินเดียที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด จะเกิดขึ้นได้จริงในอนาคตอันใกล้หากได้รับความร่วมมือจากคนในประเทศตามข้อมูลที่สื่อต่างประเทศรายงาน

ขอบคุณข้อมูล : https://www.bbc.com, theindiantalks.com , tvisha.com