นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence) กำลังเปลี่ยนแปลงวงการการศึกษาให้โดดเด่นยิ่งขึ้น โดยการเรียนการสอนระบบอัจฉริยะนั้นพัฒนาจากแพลตฟอร์มเล็กๆ อย่างแอพพลิเคชั่น มาสู่ระบบห้องเรียนอัจฉริยะ และนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างการศึกษาที่ทันสมัย
แม้ว่าจะยังเป็นช่วงตั้งต้นของการพัฒนาระบบเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อการศึกษา แต่แนวโน้มในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีการลงทุนที่มากขึ้น จากภาคการศึกษาทั่วโลก รายงานล่าสุดโดย TechNavio คาดการณ์ว่าตลาดปัญญาประดิษฐ์ในภาคการศึกษาของสหรัฐจะเติบโตต่อเนื่อง 47.77% ในช่วงปี 2018-2022
ขอบคุณภาพจาก: www.pexels.com/Pixabay
แนวโน้มการนำปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้จะไปในแนวทางเดียวกันคือการเรียนรู้เพื่อเก็บข้อมูลมาประยุกต์ใช้ และเพื่อช่วยสร้างประสบการณ์การศึกษาแห่งอนาคต
- AI สามารถทำให้กิจกรรมพื้นฐานด้านการศึกษา เป็นไปได้โดยอัตโนมัติ การให้คะแนนการบ้านและการทดสอบเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับผู้สอน และยังต้องใช้เวลามากในการคำนวนสูตรต่างๆ หาค่ากลาง เพื่อตัดเกรด ซึ่งหากใช้ระบบ AI ช่วยตรวจคะแนน บันทึก และประเมินผลสามารถทำได้ง่ายๆ และลดเวลาการทำงานได้มาก แม้ในปัจจุบันจะสามารถทำให้แค่ข้อสอบแบบตัวเลือก แต่เชื่อว่าในอนาคตข้อสอบการเขียน AI จะสามารถช่วยตรวจและให้คะแนนได้เช่นกัน
- ซอฟต์แวร์การศึกษา ตำราเรียนแบบออนไลน์ที่ฉลาดมากกว่าหนังสือธรรมดา สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของนักเรียนรายบุคคล ระบบเหล่านี้จะจดจำและตอบสนองต่อความต้องการของนักเรียน หากอ่านหนังสือในส่วนนี้ไม่รู้เรื่องซ้ำๆ สามารถเพิ่มวีดีโอแนะนำเพิ่มเติมได้
- ให้ข้อเสนอแนะ ปรับปรุงรูปแบบการเรียนได้แบบเรียลไทม์ เพราะนักเรียนเป็นผู้ใช้งานหลักสูตรที่แท้จริง ระบบ AI จะเรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ปัญหาที่นักเรียนเจอ มาเป็นข้อมูลเพื่อให้ผู้ออกหลักสูตรได้นำไปปรับปรุง นอกจากข้อมูลด้านพฤติกรรมแล้ว ผู้เรียนยังสามารถ ส่งข้อเสนอแนะไปยังผู้สอนนั้นได้โดยตรงด้วย
การใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อการศึกษา มีแนวโน้มที่จะช่วยสนับสนุนคุณภาพการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถพัฒนาตัวนักเรียนได้แบบรายบุคคล เนื่องจากการเรียนรู้ผ่านระบบ AI สามารถจดจำข้อมูลการใช้งาน ความสนใจ จุดแข็งจุดอ่อน ของตัวบุคคลได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ผู้พัฒนาหลักสูตร ผู้สอน นำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับตัวนักเรียน และช่วยให้การศึกษาพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น
การใช้นวัตกรรมเพื่อการศึกษาในดูไบ เกิดขึ้นจากบริษัทเทคโนโลยี Alef Educatio ร่วมมือกับสหพันธรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ใช้ AI สร้างวิธีการเรียนแบบใหม่ ในวิชาหลักเช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ โดยเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยสอน ทบทวนบทเรียน และบันทึกพฤติกรรมของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ให้กับครูผู้สอนนำไปปรับให้เข้ากับเด็กๆ ต่อไป และหากผู้ปกครองหรือนักเรียนต้องการเสนอแนะส่วนไหน สามารถส่งข้อมูลให้โรงเรียนผ่านระบบได้แบบเรียลไทม์ด้วย ซึ่งนำร่องด้วยโรงเรียนรัฐบาลกว่า 57 แห่ง ในประเทศ ที่มีกลุ่มนักเรียนประมาณ 25,500 ราย
ในขณะที่ Caterham School ในประเทศอังกฤษ ได้นำ Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) เข้ามาใช้เพื่อให้นักเรียนสัมผัสกับประวัติศาสต์ การใช้ชีวิต และสังคม ให้รู้สึกมีส่วนร่วมและเข้าถึงบรรยากาศเหล่านั้นจริง พร้อมทั้งมีการสนับสนุนให้นักเรียนใช้ไอแพดเพื่อการศึกษา ตามนโยบายที่ว่า “การศึกษาในยุคดิจิทัลไม่มีการสิ้นสุด และผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
ขอบคุณภาพจาก: https://asunow.asu.edu
นอกจากการช่วยให้การศึกษาง่ายและเหมาะกับตัวบุคคลมากขึ้น AI ยังช่วยลดขั้นตอนให้กับสถาบันการศึกษา ทางด้านการให้ข้อมูลได้อีกด้วย
มหาวิทยาลัย Arizona State มอบอเมซอน Alexa กับนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัย เพื่อให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับการใช้ชีวิต โดยเจ้า Alexa จะช่วยตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลสำคัญที่นักศึกษาใหม่ต้องรู้ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องผลิตคู่มือมหาวิทยาลัยในแต่ละปี ที่ต้องมีการอัพเดตอย่างต่อเนื่องไปได้ เพราะ Alexa สามารถให้ข้อมูลที่ใหม่ที่สุด และแจ้งข้าวสารใหม่ๆ ให้กับนักศึกษาได้ทันที
ขอบคุณภาพจาก: ศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง
ด้าน ศ.ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง นายกสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย กล่าวว่า ในประเทศไทยการศึกษาด้าน AI ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาเรียนรู้ แม้จะมีการกระตุ้นให้วิจัยและเริ่มพัฒนามากขึ้น แต่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้งานได้จริงอย่างเด่นชัดมากนัก โดยมองเห็นโอกาสการใช้ AI สำหรับการเรียนรู้ที่ต้องมีความซับซ้อนและอธิบายได้ยาก ซึ่งการสอนด้าน AI ส่วนตัวมองว่าควรเป็นลักษณะ Workshop มากกว่าการเรียนเป็นหลักสูตร เพราะต้องการเน้นการปฏิบัติและศึกษาข้อมูลเชิงลึก
ที่ผ่านมาเคยเห็นการศึกษาเรื่องกระดานอัจฉริยะ หรือกระดาน Interactive เช่น วาดรูปและสามารถนำมาใช้คำนวณทางฟิสิกส์ได้ วาดล้อรถ หรือเครื่องยนต์ และเกิดการจำลองรูปลักษณ์ ให้สามารถนำมาคำนวณ หรือคาดการณ์ได้
การเรียนการสอนในไทยยังเป็นรูปแบบธรรมดา อาจเป็นการใช้ Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) เข้ามาประยุกต์บ้าง ซึ่งเป็นส่วนของดิจิทัล แต่อาจไม่ใช่การประมวลผลแบบ AI เต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตามคาดหวังว่าในอนาคตไทยจะมีโอกาสพัฒนา AI ให้เข้ามาปฎิวัติวงการศึกษาได้ทันโลกเช่นกัน
ขอขอบคุณแหล่งที่มา
https://www.researchandmarkets.com/reports/4613290/artificial-intelligence-market-in-the-us
https://www.raconteur.net/technology/future-classroom-digital-education
https://edition.cnn.com/2019/03/05/tech/alef-education-ai-uae/index.html