ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พร้อมกับวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลง ภายในระยะเวลา 20-30 ปีที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยอย่างเห็นได้ชัด ปรับยุคจาก Analog สู่ Digital โดยสมบูรณ์แบบ สะท้อนจากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เปลี่ยนจาก Manual เป็น Automatic เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน แต่สังเกตไหมว่าระหว่างเส้นทางการเปลี่ยนผ่าน จะพบเห็นการโหยหาถึงอดีตของผู้คนอยู่เป็นครั้งคราว
มาทำความรู้จัก Nostalgia (นอสทัลเจีย) ซึ่งแปลว่าจิตวิทยาแห่งความคิดถึง มีรากศัพท์จากภาษากรีซ แยกเป็น Nostosn (Homecoming) และ Algos (Pain) คำนี้ถูกคิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 โดยนายแพทย์ Johannes Hofer เป็นภาวะการความโหยหา อาลัยอาวรณ์อดีต ช่วยย้อนความทรงจำให้รู้สึกดี
การเล่นกล้องฟิล์ม ถือเป็นกระแสนิยมที่ช่วยพาอดีตกลับมามีตัวตนอีกครั้งในยุคดิจิทัล ผู้คนเริ่มหาซื้อเผื่อสัมผัสความรู้สึกในอดีตอีกครั้ง วิธีการตั้งค่าแสง การดันแฟลช โดยใช้ความรู้สึกของตนเอง การถ่ายที่ไม่ได้เห็นรูปในทันทีอาจช่วยทำให้จังหวะชีวิตของเราช้าลงและมีความอดทนต่อการรอมากยิ่งขึ้น ซึ่งความไม่ Automate นั้นกลับเป็นสเน่ห์อย่างมากในยุคนี้ ร้านล้างรูปที่ใกล้เลิกกิจการ เพราะไม่มีม้วนฟิล์มให้ล้าง กลับดังขึ้นมาเป็นพลุแตก ยิ่งหากเป็นร้านสไตล์เก่าแก่ เจ้าของร้านอยู่ในวัยเก๋า จะมีความทรงจำมากมายอยู่ในพื้นที่นั้น
แหล่งที่มา amazon.com
รองลงมาคือวงการเครื่องเล่นเพลง ในปัจจุบันสามารถฟังเพลงได้เป็นล้านเพลงผ่านโทรศัพท์เครื่องเดียว แตกต่างจากสมัยก่อนที่เพลงถูกบรรจุมาในรูปแบบของแผ่นเสียง เทปคาสเซ็ท หรือ ซีดี ปริมาณการบรรจุจำนวนเพลงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับตามยุคสมัย ถึงแม้ว่าปัจจุบันเราจะสามารถเข้าถึงเสียงเพลงได้สะดวก รวดเร็วและประหยัดขึ้น แต่ยังมีกลุ่มผู้โหยหาการฟังเพลงจากอุปกรณ์สมัยเก่ามากขึ้นเช่นกัน ทำให้ศิลปินบางกลุ่มยังเลือกที่จะออกสินค้าเป็นแผ่นเสียง เทปคาสเส็ท หรือ CD เพื่อตอบสนองกลุ่มที่โหยหาอดีตกลุ่มนี้ ด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นสินค้าที่สะท้อนถึงความตั้งใจ รวมไปถึงการฟังเพลงจากอุปกรณ์ให้อารมณ์ร่วมได้ดีและเสียงที่มีเสน่ห์มากกว่า
แหล่งที่มา – www.turbosquid.com
แหล่งที่มา – wikipedia
กลุ่มอุปกรณ์แห่งการหวนอดีตกลุ่มสุดท้ายคือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปัจจุบันถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ หากลืมโทรศัพท์ออกไปข้างนอก จะรู้สึกเหมือนชีวิตขาดหาย แต่ในปัจจุบันหลายคนมักพูดถึงโทรศัพท์รุ่นเก่าที่มีฟังก์ชั่นไม่ถึง 10 อย่าง การทำงานที่ไม่ซับซ้อน อยากคุยกับใครแค่โทรออก และไม่มีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมโลกได้ตลอดเวลา รวมถึงไม่มีสังคมก้มหน้าเหมือนในปัจจุบัน
ในสมัยนี้จะได้ยินคำว่า Social Media Detox แพร่หลายมากขึ้น คือการหลีกเลี่ยงการใช้ Social Media เพราะทำให้เกิดอาการจิตหมกมุ่นกับการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ เช่น เช็คเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความข่าวสาร โพสต์รูป เสพติดการกดไลค์ ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในชีวิตจริง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ การพัฒนาความสัมพันธ์ หรืออาการทางจิตอื่นๆ ตามมาได้ ทำให้การหาซื้อโทรศัพท์ในยุคเก่าสักเครื่อง เพื่อใช้ในกระบวนการ Social Media Detox ได้รับความสนใจมากขึ้น
แหล่งที่มา – commons.wikimedia.org
หากเปรียบเทียบความแตกต่างของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุค Analog และ Digital เพื่อหาสาเหตุของการโหยหาอดีต ข้อเด่นชัดคือเรื่องความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ยกตัวอย่างโทรศัพท์มือถือในอดีตรุ่นดังอย่าง Nokia 3310 ฟังก์ชั่นหลัก โทรเข้า โทรออก ส่งข้อความ เล่นเกม แต่ในขณะเดียวกันยุคสมาร์ทโฟน นอกจากฟังก์ชั่นที่ทำได้เหมือน Nokia 3310 แล้วยังสามารถถ่ายรูป ถ่ายวิดิโอ ฟังเพลง ดูหนัง วาดรูป เล่นอินเตอร์เน็ต ทำงาน เชื่อมโลกได้แบบทั่วถึง และยังมีความสามารถที่ทำได้อีกมากจนไม่สามารถอธิบายได้หมด
ขณะเดียวกันข้อเสียของเทคโนโลยีสมัยเก่ามีไม่กี่ข้อ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องข้อจำกัดประสิทธิภาพของอุปกรณ์ แต่ในสมัยนี้สมาร์ทโฟนแม้จะเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกสูงสุด แต่ก็มีสิ่งที่น่ากังวล เช่น การพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้เกิดช่องโหว่เรื่องความปลอดภัยต่างๆ มากมาย การแฮกข้อมูล การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบต่างๆ ถูกยกมาเป็นประเด็น จนทำให้คนรู้สึกเบื่อหน่ายได้เช่นกัน
ไม่เพียงแต่ในวงการอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ แต่ความโหยหาอดีตยังนำไปสู่วงการท่องเที่ยว ซึ่งจะพบตลาดย้อนยุค คาเฟ่สไตล์ Retro เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย รวมไปถึงวงการโฆษณา การ Re-Package สินค้าให้คล้ายกับฉลากสินค้าในอดีต การทำชิ้นงานโฆษณาให้ดูแล้วย้อนกลับไปในช่วงยุคสมัยเก่า ล้วนเป็นผลมาจากการใช้จิตวิทยา Nostalgia ทั้งสิ้น และวิธีการนี้สามารถใช้ซ้ำได้อย่างไม่รู้จบ เพราะจุดการหวนคิดถึงอดีตของแต่ละคนมีได้บ่อยครั้ง ต่างเวลา ต่างวาระ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา
https://www.the101.world/the-healing-power-of-nostalgia/