ในศตวรรษที่ 21 โลกของเรากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและธุรกิจทั่วโลกคือ เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) การเปลี่ยนแปลงนี้กำลังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อทุกแง่มุมของชีวิตมนุษย์ ตั้งแต่การดำเนินชีวิตประจำวันไปจนถึงการทำงานและการบริหารจัดการทรัพยากร
IoT มาจากคำว่า Internet of Thing เป็นแนวคิดที่นำเอาอุปกรณ์หรือสิ่งต่าง ๆ จากชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์สวมใส่ หรือแม้แต่โครงสร้างพื้นฐานของเมือง มาเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้อุปกรณ์หรือสิ่งของเหล่านี้สามารถส่งข้อมูลและรับคำสั่งได้อย่างอัจฉริยะ จนเกิดเป็นความ Smart ในด้านต่างๆ อาทิ Smart Device, Smart Grid, Smart Network, Smart Intelligent Transportation เป็นต้น ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเพียงสื่อกลางในการส่งและแสดงข้อมูลเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนวิธีที่เราติดต่อสื่อสารและบริหารจัดการทรัพยากร แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย
ตัวอย่างเทคโนโลยี IoT ที่อยู่รอบตัว
Smartwatch (นาฬิกาอัจฉริยะ)
หลักการทำงาน คือ การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างนาฬิกาและ Smartphone ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อการบันทึกข้อมูลสุขภาพ การนับก้าวเดิน การวัดอัตราการเต้นหัวใจ การคำนวณแคลอรีที่ใช้ในแต่ละวัน และการสนทนาโทรศัพท์
Smart Home / Smart Building (บ้าน / อาคารอัจฉริยะ)
เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในอาคารและนอกอาคารจาก Smartphone หรือ Tablet ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจากที่ใดก็ได้ อาทิ ระบบไฟอัจฉริยะ, ระบบความปลอดภัย, ระบบแจ้งเตือน, ระบบเข้า-ออกอาคาร เป็นต้น
Cloud Storage (พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวน์)
เป็นบริการรับฝากไฟล์และประมวลข้อมูลผ่านทางออนไลน์ ซึ่งมีข้อดี คือ มีความปลอดภัยของข้อมูลจากกการถูกโจรกรรมสูง สามารถกำหนดการเข้าถึงข้อมูลแบบส่วนตัวหรือสาธารณะก็ได้ การเข้าถึงข้อมูลสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อักทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการซื้ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอีกด้วย
Smart Healthcare (การดูแลสุขภาพอัจฉริยะ)
เป็นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถส่งและรวบรวมข้อมูลได้แบบ Real Time จึงช่วยให้วินิจฉัยและเครือข่ายป้องกันโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการเฝ้าติดตามคนไข้จากระยะไกล
Agriculture Drones (โดรนเพื่อการเกษตรกรรม)
นำโดรนมาใช้ในการสร้างภาพเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของพืช การเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์ผ่านการใช้ชุดเซ็นเซอร์เพื่อใช้ในการถ่ายภาพ การสำรวจที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และการทำแผนที่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยเพิ่มศักยภาพในการเพิ่มผลผลิต
Smart Factory (โรงงานอัจฉริยะ)
การนำเอา IoT และ AI มาช่วยให้ระบบการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมมีความสะดวกมากขึ้นด้วยระบบอัตโนมัติ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้มีคุณภาพ ทั้งในด้านการตรวจวัด การเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์แบบ real Time รวมไปถึงการสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อลดการใช้ทรัพยากรมนุษย์และลดความผิดพลาด
เทคโนโลยี IoT จะยังคงพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายและเชื่อมต่อกันง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตและพัฒนาไปอีกขั้น ด้วยการนำข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ IoT มาวิเคราะห์และใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ที่มา:
Basic Internet Of Things (IoTs)
IoT คืออะไร
ทำความรู้จักกับ Internet of Things
อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) คืออะไร