ในช่วงแรกของ open talk เราได้รับเกียรติจากคุณไมเคิล อะราเน็ตตา นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยแห่งวงการฟินเทคแถวหน้าระดับเอเชีย-แปซิฟิก และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานบริหาร ไอดีซี ไฟแนนเชียล อินไซต์ (IDC Financial Insights)

พบกับสัมภาษณ์ของคุณไมเคิล อะราเน็ตตา part#1 ได้ที่นี่

For privacy reasons YouTube needs your permission to be loaded.

I Accept

สำหรับท่านที่มีเวลาจำกัด แต่อยากศึกษาข้อมูลแบบครบทุกคำถาม สามารถเลือกรับชมได้ตามนาทีที่แนะนำด้านล่าง

• Impact of COVID-19 situation on BFSI market (นาทีที่ 03:09 – 06:57)

• Buzz word during COVID -19 (นาทีที่ 07:01 – 09:57)

• The critical technologies for BFSI after COVID-19 (นาทีที่ 10:02 – 12:50)

• The trends and sentiment of investment in these technologies (นาทีที่ 13:04 – 14:27)

 

ถ้าจะขยายภาพรวมของ IDC Financial Insight คือสถาบันวิจัยธุรกิจโดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในการวิเคราะห์ โดยเฉพาะในกลุ่มของการเงิน การธนาคารจนไปถึงธุรกิจประกัน นอกจากนั้นยังรวมถึงอุตสาหกรรมการผลิต เช่น ภาครัฐ ธุรกิจเพื่อสุขภาพและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ การเรียบเรียงบทวิเคราะห์ที่ได้รับมาจากทั่วโลกจะครอบคลุมทุกเรื่องฮาร์ดแวร์ บริการของซอฟต์แวร์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่มีส่วนช่วยให้ IDC มีความล้ำหน้าในการคาดการณ์ความเป็นไปในอนาคต

โดยเนื้อหาใน open talk ตอนแรกนี้คุณไมเคิลกล่าวถึงผลกระทบของโรคระบาด COVID-19 โดยเฉพาะผลกระทบในกลุ่ม BFSI ในช่วงนี้คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างหนักและกำลังเผชิญอยู่กับการจัดระเบียบบริหารเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ในส่วนของธนาคารและประกันภัยแม้ว่าจะได้มีการเตรียมพร้อมมาอย่างดี แต่การวางแผนความต่อเนื่องธุรกิจ (BCP) อาจจะยังไม่เพียงพอ ต้องเตรียมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Plan) ด้วยเช่นกัน และการเรียงลำดับความสำคัญในการบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นกุญแจหลักในทุกองค์กร แต่จาก 3 ปีที่ผ่านมามีการตระหนักถึงความเสี่ยงน้อยมากจึงถูกมองข้ามไป เพราะองค์กรต่างๆ ให้ความสนใจกับเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้เป็นหลัก แต่ในขณะนี้ได้มีการกระตุ้นในหลายองค์กรเพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญกับเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความเสี่ยงด้านปฏิบัติการเพิ่มมากขึ้น การลงมือปฏิบัติอย่างเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอ ธนาคารและประกันภัยต้องหันมาดูเรื่องของการเลือกใช้เทคโนโลยีและการติดตั้งเครื่องมือให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสำคัญมากในช่วงวิกฤตินี้เช่นกัน

ผมมองว่าเรื่องของการบริหารความเสี่ยงมันมีหลายบริบทและหลากหลายมุมมอง Risk Management ไม่ได้เป็นเรื่องของการเงินอย่างเดียว แต่มันอาจจะเป็นความเสี่ยงในด้านของปฏิบัติการและการจัดการความเสี่ยงนั้นจะส่งผลไปยังลูกค้าได้มากน้อยเพียงใด นั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้

ส่วนเรื่องของความปลอดภัยในระหว่างที่มีการ work from home นั้น ทางอุตสาหกรรม BFSI เองจะต้องเตรียมเทคโนโลยีที่รองรับการทำงานได้เสมือนกับการทำ operation ในช่วงเหตุการณ์ปกติ สิ่งที่บริษัทต้องคำนึงถึงคือเครื่องมือที่นำมาใช้จะต้องมีความปลอดภัยต่อพนักงานและข้อมูล เพราะทุกอย่างจะอยู่บนระบบ cloud ฉะนั้นบริษัทต้องเลือกเครื่องมือที่ครอบคลุมและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลจาก cyber threat จากนั้นมาดูถึงเรื่องของ data ว่าเทคโนโลยีที่เราเลือกลงทุนมานั้นมีประสิทธิภาพที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้รวดเร็วและทันตามสถานการณ์จริงหรือเปล่า ก้าวทันคู่แข่งได้หรือไม่ เพราะนั้นคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้

หากพูดถึงเทรนด์หรือการเลือกใช้เทคโนโลยีตัวไหนให้เหมาะสมกับการลงทุน ผมมองว่าตอนนี้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายอยู่แล้วในตลาดทั่วไป แต่สิ่งที่ผมขอลงลึกคือ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้งานที่ปลอดภัยและเหมาะสมต่อลักษณะธุรกิจของคุณจะก่อให้เกิดผลดีมากกว่า อีกเรื่องที่ควรคำนึงคือความคุ้มค่าของการลงทุน ความสามารถในการขยายตัวเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต อย่างเช่นในส่วนของการประเมินสินเชื่อจากธนาคาร ข้อมูลแบบเดิมที่ธนาคารใช้ในการวิเคราะห์สินเชื่ออาจใช้ไม่ได้หรือไม่เพียงพอ เนื่องจากเศรษฐศาสตร์มหาภาค (macroeconomic) ได้ถูกเปลี่ยนไป วิธีการประเมิน credit scoring มันอาจใช้ไม่ได้กับสถานการณ์ปัจจุบันอีกต่อไป องค์กรจะต้องวางแผนใหม่ตั้งแต่ จัดลำดับความสำคัญของข้อมูลไปจนถึง credit framework เพราะอย่างหนึ่งที่เราต้องคำนึงว่าระบบสินเชื่อคือรากฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจธนาคาร ฉะนั้นการเลือกใช้ระบบเทคโนโลยีที่เข้ากับองค์กรประกอบกับการวางแผนลำดับข้อมูลที่รอบคอบจะทำให้องค์กรก้าวพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้อย่างแน่นอน

 

ติดตาม Part 2 ได้ที่นี่เร็วๆ นี้…

 

รับชมวิดีโอเพิ่มเติม : Teaser [About-open talk]

 

พร้อมติดตามและเป็นกำลังใจได้ที่ OPEN-TEC Facebook Fan page อย่าลืมกดถูกใจ (Like) กดติดตาม (Follow) กดเห็นโพสต์ก่อน (See First) และ Subscribe ในทุกช่องทางเพื่อรับอัปเดตใน Episode ใหม่ๆ ได้ทันที

 

กลุ่มบริษัททีซีซี เทคโนโลยี
กลุ่มบริษัท ทีซีซี เทคโนโลยี คือพันธมิตรผู้ให้บริการที่พร้อมช่วยลูกค้าตอบโจทย์ธุรกิจด้วยเทคโนโลยี โดยเน้นบริการที่คุ้มค่าและตั้งอยู่บนโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีความเป็นกลางและ น่าเชื่อถือรับรองโดยมาตรฐานสากลด้านการจัดการ ความปลอดภัยข้อมูล ISO27001 และบนแพลทฟอร์มด์ที่รับรองด้วยมาตรฐานสากล ด้านความปลอดภัยสำหรับ ระบบคลาวด์ CSA STAR และ PCI DSS ตลอดจนความพร้อมในการเชื่อมต่อโครงข่ายที่ครอบคลุมและ บริหารจัดการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่เปี่ยมด้วย ประสบการณ์ (Experienced Professionals) กลุ่มบริษัท ทีซีซี เทคโนโลยี ประกอบด้วย บริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำกัด (ทีซีซีเทค) บริษัท ลีพ โซลูชั่น เอเชีย จำกัด (ลีพ โซลูชั่น) บริษัท ชินาทรัพย์ จำกัด (ชินาทรัพย์) กลุ่มบริษัท ทีซีซี เทคโนโลยีเน้นความสำคัญในการประสานพลังร่วมกับบริษัทอื่นๆภายใต้กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น และ พันธมิตรธุรกิจในเครือข่ายระดับโลก เพื่อผลักดันการเติบโตทางธุรกิจและสังคมอย่างต่อเนื่องสู่ความยั่งยืน รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม www.tcc-technology.com